
รู้จัก บัมเบิ้ลบี (Bumble Bee) กันไหมคะ
ไม่ค่ะ ไม่ใช่ตัวนี้
แอดมินหมายถึงเจ้าผึ้งขนฟูตัวกลมดูน่ารักน่ากอดที่สุดในบรรดาสายพันธ์ผึ้งญาติๆ ของมันทั้งหมด ตัวนี้ค่ะ
เจ้าขนฟูตัวนี้เป็นผึ้งในสกุล Bombus ค่ะ บ้านเราเรียกผึ้งหึ่ง คำว่า bumble ก็แปลว่า เสียงหึ่งๆ เช่นกัน สมัยก่อนบางครั้งมีการใช้คำว่า humblebee แหม...ฟังดูเป็นผึ้งที่อ่อนน้อมเจียมเนื้อเจียมตัวจริงๆ เลยนะคะ
แม้แต่ชื่อของดัมเบิ้ลดอร์ ก็ยังเอามาจากเจ้าผึ้งตัวนี้เช่นกัน
JK Rowling เคยพูดว่า "ฉันจินตนาการว่า เขาเดินเตร็ดเตร่ไปเพียงลำพังทั่วปราสาทและฮึมฮัมกับตัวเอง"
ซึ่งก็เปรียบเหมือนเจ้าผึ้งหึ่งขนฟูที่บินไปทั่วพร้อมกับเสียงหึ่งๆ ของมัน
ส่วนลักษณะเด่นก็อย่างที่เห็นค่ะ พวกมันมีขนฟูยาวตลอดทั่วทั้งตัวและสีสันสดใส ขนของมันมีตั้งแต่สีขาว เหลืองอ่อน เหลืองส้ม แซมสีกรมท่าบ้าง สลับดำบ้าง แยกย่อยไปตามสายพันธุ์ย่อยๆ ของพวกมัน ซึ่งแบ่งย่อยได้อีกถึง 250 ชนิด

พวกมันทำรังเป็นลูกกลมๆ เหมือนชันโรงเลยค่ะ เพียงแต่ลูกใหญ่กว่า ตามขนาดของร่างกายมันค่ะ พวกมันเป็นผึ้งรักสงบค่ะ
ที่บอกว่ารักสงบเพราะพวกมันไม่ได้สนใจสิ่งมีชีวิตรอบข้างของพวกมันเลย ประมาณว่าใครจะทำอะไรก็ทำไปฉันไม่สนใจ
แล้วก็อย่ามาสนใจฉัน แต่พวกมันก็คือผึ้งค่ะ มันต่อยได้แล้วก็สามารถต่อยซ้ำๆ ต่อเนื่องได้
พวกมันชอบอาศัยอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นสบายไม่ชอบอากาศร้อนซักเท่าไหร่ รังของพวกมันเล็กกว่าผึ้งเลี้ยงทั่วไป
ใน 1 รังก็จะมีสมาชิกโดยประมาณเพียงแค่ 50 ตัวเท่านั้น ในขณะที่ผึ้งให้น้ำหวานอื่นๆ หรือผึ้งเลี้ยงจะมีสมาชิกในรัง หลักพัน หรือหลักหมื่น นางพญาของพวกบัมเบิ้ลบีก็ชอบล่าอาณานิคมมากค่ะ พวกมันจะบินไปยังรังของนางพญาตัวอื่น ฆ่าเจ้าของรัง และวางไข่ลงในรังนั้นๆ ที่แย่งชิงมาได้

บัมเบิ้ลบียังสามารถปล่อยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ ออกมาได้ด้วย ดังนั้นเมื่อมันไปเกาะบนดอกไม้ มันจะทิ้งกระแสไฟฟ้านี้เอาไว้ เหมือนกับการทิ้งรอยเท้าเอาไว้บนดอกไม้ เมื่อมีผึ้งตัวอื่น หรือแมลงชนิดอื่นรู้สึกถึงกระแสไฟฟ้าสถิตที่ค้างอยู่บนดอกไม้ก็จะรู้ได้ว่าบนดอกไม้เคยมีเจ้าบัมเบิ้ลบีมาแวะแล้ว แล้วถ้ามากันหลายตัว ก็จะยิ่งมีกระแสไฟฟ้าค้างอยู่มาก พวกแมลงอื่นก็จะรู้ได้ว่าคงจะไม่มีอะไรบนดอกไม้เหลือให้อีกแล้ว
แต่ที่น่าเศร้าก็คือบัมเบิ้ลบีจัดเป็นผึ้งที่ใกล้สูญพันธุ์เต็มที เนื่องจากสภาพอาการที่เปลี่ยนแปลง การใช้ยาฆ่าแมลง และโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับสัตว์จำพวกผึ้ง ทำให้พวกมันลดจำนวนลงอย่างรวดเร็ว และพบเห็นได้ยากขึ้น
แถมเจ้าพวกนี้ส่วนใหญ่ทำรังบนพื้นดินทำให้เจอสัตว์นักล่าได้ง่ายมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

ที่น่าเศร้ายิ่งกว่าก็คือ พวกนักวิชาการ ยังคงถกเถียงกันว่า มนุษย์อย่างเราๆ ควรยื่นมือเข้าไปช่วยพวกมันกันดีไหม ในขณะที่พวกมันก็ลดจำนวนลงทุกๆ วันและจากพฤติกรรมของมันในระหว่าง 20 ปีนี้ พวกมันอพยพหนีร้อนก็ได้อย่างเชื่องช้า เพราะเมื่ออากาศร้อนขึ้นแมลงบางชนิดจะอพยพไปทางเหนือ เพื่อหาสภาพอากาศที่เย็นสบายกว่า ซึ่งต่างจากบัมเบิ้ลบีเพราะพวกมันไม่สามารถผลิตประชากรรุ่นใหม่ขึ้นมาได้รวดเร็วเพียงพอในระหว่างย้ายถิ่น มันถึงย้ายหนีสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วแทบจะไม่ทัน
