ทุกคนส่งสัยกันไหมคะว่า เราจะสามารถเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งได้กี่ชนิดบนโลกใบนี้ โลกของเราที่มีความหลากหลายของพืชพรรณมากมาย มีสายพันธุ์ผึ้งมากมาย คงจะจิตนาการไม่ได้เลยว่า เราจะสามารถเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งได้กี่ชนิดบนโลกใบนี้ แต่มีน้ำผึ้งชนิดหนึ่งที่หลายคนอาจเคยได้ยิน หรือรู้จักกันแล้ว น้ำผึ้งที่ได้รับฉายาว่าคือสุดยอดน้ำผึ้ง น้ำผึ้งที่ดีที่สุดในโลก แต่ทำไมถึงถูกเรียกแบบนั้น วันนี้เรามาทำความรู้จักกับน้ำผึ้งมานูก้ากันค่ะ ซึ่งว่ากันว่าเป็นน้ำผึ้งที่ดีที่สุดในโลก
ก่อนที่จะเป็นน้ำผึ้งมานูก้า เราไปดูกันก่อนว่า มานูก้ามันคือต้นอะไรกันนะ
ทำไมน้ำผึ้งที่ได้จากต้นมานูก้า ถึงได้ถูกเรียกว่าน้ำผึ้งที่ดีที่สุดในโลก
ต้นมานูก้า เป็นต้นไม้พุ่มเตี้ย ใบแหลม มีดอกสีขาว บางครั้งขาวแกมชมพู หรือชมพู มีถิ่นกำเนิดในประเทศนิวซีแลนด์ ผลิดอกในช่วงฤดูร้อนหรือฤดูไม้ผลิ โดยต้นที่โตเต็มที่แล้วจะสามารถทนต่อสภาพอากาศที่ทรหดแปรปรวนได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แห้งหรือชื้น แต่ถึงอย่างนั้นต้นมานูก้าส่วนมากก็พบที่ประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น
คำว่ามานูก้าเป็นภาษาถิ่นของชาวเผ่าเมารี ชนเผ่าท้องถิ่นของนิวซีแลนด์ แต่บางครั้งพบได้ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ซึ่งถ้าในออสเตรเลียจะถูกเรียกว่ามาลาลูก้า นานมาแล้วชนเผ่าท้องถิ่นมักใช้ต้นมานูก้ามาชงเป็นชาดื่ม หรือใช้ในการรักษาโรคและอาการบาดเจ็บ ลำต้นแห้ง หรือขี้เลี่อยที่ได้จากต้นมานูก้า สามารถนำมารมควันปลา หรือเนื้อเพื่อเป็นการถนอมอาหาร และทำให้อาหารรสชาติดีขึ้นอีกด้วย และด้วยคุณสมบัติทางยาที่สามารถต้านทานเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อไวรัสบางชนิดได้เป็นอย่างดี ลดการอักเสบ ปวดบวม ของผิวหนังไม่ว่าจะเป็นแผลสด แผลไฟลวก หรือแม้แต่รักษาสิว ทำให้น้ำผึ้งมานูก้า ถูกยอมรับในทางการแพทย์

ต้นมานูก้า เป็นพืชที่มีประโยชน์ในระบบนิเวศด้วยเช่นกัน ร่มของพุ่มต้นมานูก้าช่วยรักษาความชื้นบนหน้าดิน เป็นที่อยู่ให้สัตว์และแมลงตัวเล็กๆ ที่หากินบนผิวดิน สามารถป้องกันการทะลายของหน้าดินตามเนินเขา และยังเป็นแหล่งอาหารให้ผึ้งและแมลงอื่นๆ ได้ แต่น่าแปลกที่สัตว์กินพืชทั่วไป ไม่นิยมชมชอบแทะต้นมานูก้านัก พุ่มของมันจึงยังคงสวยงาม ปัจจุบันต้นมานูก้าถูกพัฒนาสายพันธุ์ให้สามารถปลูกได้จำนวนเพิ่มมากขึ้น บนพื้นที่ของนิวซีแลนด์ ทำให้สามารถเพิ่มผลผลิตน้ำผึ้งดอกมานูก้าได้มากขึ้น

น้ำผึ้งดอกมานูก้า เป็นน้ำผึ้งที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่าเป็นน้ำผึ้งที่ดีที่สุดในโลก บางครั้งเรียกราชินีแห่งน้ำผึ้ง เนื่องจาก มีคุณสมบัติทางยาสูงกว่าน้ำผึ้งทั่วไปหลายเท่า โดยสิ่งที่ทำให้น้ำผึ้งมานูก้าพิเศษกว่าน้ำผึ้งชนิดอื่นๆ คือสิ่งที่เรียกว่า MGO (methylglyoxal) ซึ่งเป็นสารประกอบตามธรรมชาติที่พบในน้ำหวานของดอกมานูก้าเท่านั้น เป็นเอ็นไซม์ประสิทธิภาพสูงที่มีฤทธิ์ต้านแบคทีเรียและเชื้อไวรัส เทียบเคียงกับยา แถมสารตัวนี้ยังทนต่อความร้อน หมายความว่าสารตัวนี้จะไม่สูญสลายไปแม้ว่าเราจะนำน้ำผึ้งมานูก้าไปทำอาหารหรืออะไรก็ตามที่จำเป็นต้องผ่านความร้อน
ดอกมานูก้านั้น จะสามารถเป็นอาหารให้กับผึ้งได้ประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น นั่นหมายความว่า ใน 1 ปี ผู้เลี้ยงผึ้งจะมีเวลาเก็บเกี่ยวน้ำผึ้งดอกมานูก้าเพียง 2 สัปดาห์บวกลบได้นิดหน่อย นี่จึงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้น้ำผึ้งดอกมานูก้านั้นพิเศษ หายาก ราคาแพง

ในปี 2017 เกิดเหตุการณ์โจรขโมยรังผึ้งในนิวซีแลนด์ ครั้งใหญ่สร้างความไม่พอใจให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงผึ้งในนิวซีแลนด์จำนวนมากนั่นเพราะ ราคาของน้ำผึ้งมานูก้าสูง ตลาดมีความต้องการสูง และเพราะคุณสมบัติทางยาสูงอย่างที่ได้กล่าวไป ทำให้มีคนนำไปขายในตลาดมืด เพื่อทำกำไร
กระทรวงอุตสาหกรรมพื้นฐาน (MPI) รายงานว่านิวซีแลนด์ผลิตน้ำผึ้งได้ปีละ 15,000 - 20,000 ตันขึ้นอยู่กับสภาพภูมิอากาศและส่งออกไปยังเกือบ 40 ประเทศทั่วโลก ปี 2017 พบว่ามีฟาร์มผึ้งที่จดทะเบียนเป็นเกษตรกรถูกต้อง รวม 8000 ราย และรังผึ้งที่ลงทะเบียนแล้วอีกกว่า 8 แสนรัง ยอดส่งออกน้ำผึ้งในปี 2017 สูงถึง 315 ล้านดอนล่า หรือกว่า 7700 ล้านบาท มูลค่าของอุตสาหกรรมมานูก้าของนิวซีแลนด์ พุ่งขึ้นถึง 1.2 พันล้านดอลล่า ตั้งแต่ปี 2010 และเพิ่มขึ้นทุกๆ ปี นั่นจึงทำให้การขโมยรังผึ้งในนิวซีแลนด์เป็นอาชญากรรมค่อนข้างร้ายแรง

การเลือกซื้อน้ำผึ้งมานูก้านั้น ให้สังเกตจากค่า MGO / MG หรือ UMF (ย่อมาจาก Unique Manuka Factor) หมายถึง ระดับศักยภาพในการออกฤทธิ์ต้านแบคทีเรียตามธรรมชาติ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่มีอยู่ในน้ำผึ้งมานูก้า บนตัวผลิตภัณฑ์ โดยมีการระบุตั้งแต่ 5+ สูงขึ้นไปเรื่อยๆ โดยหากที่ตัวบรรจุภัณฑ์ระบุค่า UMF สูงมากเท่าไหร่ ปริมาณ MGO ในผลิตตัวนั้นก็มีมากตามไปด้วย และความสามารถในการต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัสก็สูงตามไปด้วย รวมถึงราคาก็เช่นกัน
ในด้านการแพทย์น้ำผึ้งดอกมานูก้าที่มีค่า UMF 5+ หรือ 10+ เป็นต้นไปสามารถยับยั้งหรือป้องกันโรคไข้หวัด (H1N1) ได้ และในระดับ 16+ 20+ หรือ 25+ ขึ้นไปสามารถรักษาแผลและอาการบาดเจ็บได้ โดยเคยมีการใช้น้ำผึ้งมานูก้ากับแผลผ่าตัด ในหลายๆ รายในต่างประเทศพบว่า แผลหายเร็วและไม่มีอาการติดเชื้อ ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องทรมานนานจากแผลผ่าตัด
จากตารางจะเห็นได้ว่า ค่า MGO และ UMF นั้นผันแปรตามกัน