เกสรผึ้ง หรือเกสรดอกไม้ คือละอองเกสรที่ถูกรวบรวมโดยผึ้งงาน
เมื่อผึ้งบินไปเกาะบนดอกไม้ ละอองเกสรของดอกไม้นั้นๆ จะติดกับขาผึ้งขึ้นมา เหมือนคนเราเดินเท้าเปล่าไปคลุกฝุ่นนั่นเอง ขาคู่หลังสุดของผึ้งนั้นจะมีกระเปาะเล็กๆ ที่เกิดจากเส้นขนจำนวนหนึ่ง ทำให้ละอองเกสรดอกไม้ เข้าไปติดในกระเปาะนั้นและพอกพูน กลายเป็นเม็ดเล็กๆ ติดที่ขาของผึ้ง ซึ่งผึ้งก็จะนำไปเก็บไว้ในรังสำหรับเป็นอาหาร

เกสรผึ้งมีมากมายหลากหลายสีสัน พอๆ กับสีของดอกไม้ ขึ้นอยู่กับว่าผึ้งจะไปเกาะบนเกสรดอกไม้สีอะไร มีตั้งแต่สีครีม เหลืองอ่อน จนไปถึง เหลืองส้ม สีส้มแดง สีแดง สีชมพู สีม่วง สีฟ้า สีน้ำตาล ไปจนถึงสีดำ ส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมกันมากจะเป็นสีเหลืองนวลจนถึงสีส้ม แต่สีสันไม่ได้เป็นตัวกำหนดคุณค่าทางอาหารของเกสรผึ้งแต่อย่างใดนะคะในเกสรผึ้งนั้นมีองค์ประกอบทางเคมี ที่เป็นสารที่มีประโยชน์มากกว่า 250 ชนิด เช่น กรดอะมิโน ไขมัน วิตามิน ฟลาโวนอยด์ และไมโครนูเทรี่ยนอีกมากมาย
องค์ประกอบหลักทางเคมีของเกสรผึ้ง
- คาร์โบไฮเดรตที่ย่อยได้ร้อยละ 30
- น้ำตาลร้อยละ 26 (ส่วนใหญ่ฟรุกโตสและกลูโคส)
- โปรตีน 23 เปอร์เซ็นต์ (รวมถึง 10 เปอร์เซ็นต์ของกรดอะมิโนที่จำเป็น)
- ไขมัน 5 เปอร์เซ็นต์ (รวมถึงกรดไขมันที่จำเป็น)
- สารประกอบฟีนอลิค 2 เปอร์เซ็นต์ (รวมถึงฟลาโวนอยด์)
- แร่ธาตุ 1.6 เปอร์เซ็นต์ (รวมถึงแคลเซียมฟอสฟอรัสแมกนีเซียมโซเดียมโพแทสเซียมเหล็กทองแดงสังกะสีแมงกานีสซิลิคอนและซีลีเนียม)
- วิตามินและกรดที่ละลายในน้ำได้ร้อยละ 0.6 (รวมถึง B1, B2, B6 และ C)
- วิตามินที่ละลายในไขมันร้อยละ 0.1 (รวมถึงวิตามิน A, E และ D)
เรื่องมหัศจรรย์ของเกสรผึ้งเคยมีการทดลองให้หนูที่เป็นโรคมะเร็งตับทานเกสรผึ้ง ผลที่ได้คือสามารถลดการอักเสบและการติดเชื้อในตับของหนูได้เป็นอย่างดี จนมีการตีพิมพ์ผลการวิจัยในวารสารทางการแพทย์ Pharmaceutical Biology ในปี 2010